← Back Published on

กอล์ฟ นลธวัช กับพื้นที่แห่งรอยยิ้ม

17.10.62

เขียนโดย Neeranat Lumnoi

ได้รับคัดเลือกให้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562

สถานที่บริเวณสวนอัญญา เฮือนครูองุ่น มาลิก หอประวัติศาสตร์ประชาชนภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสำนักงานกลุ่มลานยิ้ม ซึ่งขณะนี้พื้นที่ส่วนหนึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมละครเวทีเรื่องใหม่ของลานยิ้มการละคร ที่จะเริ่มแสดงในเดือนตุลาคม 2562 โดย ‘นลธวัช มะชัย’ หรือ ‘กอล์ฟ’ หนึ่งในผู้กำกับและนักแสดงนำของลานยิ้มการละครเป็นผู้กุมบังเหียน

กอล์ฟแต่งกายด้วยเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ใส่สนับเข่า เพื่อให้สะดวกต่อการเตรียมงานสร้าง ‘Thai ThaiTerrian’ โดยเรื่องนี้กอล์ฟยังคงรับหน้าที่กำกับและแสดงนำเช่นเคย ละครแต่ละเรื่องที่กอล์ฟเคยทำล้วนแฝงนัยยะสำคัญไว้มากมาย Thai ThaiTerrian ยังคงขับเคลื่อนด้วยประเด็นทางสังคม กอล์ฟนิยามละครเรื่องใหม่ของเขาอย่างแสบสันว่า “พูดถึงสิ่งที่คุณจะพบได้แค่ในแผ่นดินไทย ดินแดนกะลาแลนด์เท่านั้น”

กลุ่มลานยิ้มและลานยิ้มการละครเริ่มต้นจากเงิน 5 หมื่นบาทที่กอล์ฟได้รับจากทุนโครงการสื่อสารมวลชนเพื่อสังคม คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แนวคิดของเขาคือจะทำอย่างไรให้เงินนี้กลับคืนสู่สังคม จึงเกิดการรวมตัวกับเพื่อนในคณะการสื่อสารมวลชนเพื่อทำละครเรื่องแรก ‘กลืนมหานคร’ ที่ตระเวนเล่นหาเงินทั่วประเทศ สุดท้ายก็ใช้เงินประมาณ 2 แสนบาท “พอกลับมาเชียงใหม่ก็มานั่งคุยกันว่า มันสนุกและมันตรงกับที่เราเรียนมา ก็เลยตัดสินใจชวนกันห้าคนตั้งเป็นกลุ่มลานยิ้ม”

“Lanyim Creative Group คือพื้นที่แห่งรอยยิ้ม” กอล์ฟบอกว่ารอยยิ้มนั้นมีหลายความหมาย ไม่ว่าจะยิ้มแบบมีความสุข ยิ้มเยาะเย้ย หรือแม้แต่ฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด ส่วนลานคือลานกว้างที่ทุกคนเคยวิ่งเล่นกันตอนเด็กและเกิดการเรียนรู้ กลุ่มลานยิ้ม (Lanyim Creative Group) และลานยิ้มการละคร (Lanyim Theatre) จึงตั้งขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมกับเด็กและชุมชน กว่า 4 ปี กับผลงานการแสดงเกือบร้อยเรื่อง จากสมาชิกห้าคน กลายเป็นหลายสิบคนในเวลาต่อมา ไม่เพียงแต่ทำละครอย่างเดียว แต่กอล์ฟมองก้าวไกลกว่านั้น “ในฐานะของคนเรียนสื่อสารมวลชนและคนเรียนศิลปะ เราจะทำยังไงให้งานศิลปะของเรามันสื่อสารและมันได้ผล” กลุ่มลานยิ้มจึงมีกิจกรรมอื่นเพื่อสื่อสารและรณรงค์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม งานที่พวกเขาทำมีสามด้านหลัก ได้แก่ หน้างานรณรงค์ หน้างานละคร และหน้างานวิชาการ

หน้างานรณรงค์ เน้นการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเด็กหาย น้ำท่วมและแผ่นดินไหว ครอบคลุมไปถึงเรื่องการเมือง เพราะการทำกิจกรรมเพื่อสังคมสามารถเชื่อมโยงกับการเมืองได้โดยตรง “พอเราทำกิจกรรมทางสังคมการเมือง เราเจอปัญหา โดยเฉพาะปัญหาที่รัฐบาลไม่ชอบให้มายุ่งเกี่ยว เราก็เลยเอามาพูด” ด้วยความแน่วแน่และความมั่นใจนี้ ทำให้กอล์ฟปรากฏในหน้าสำนักข่าวบ่อยครั้ง เหตุผลนี้ทำให้เขาเป็นคนพูดเก่งและไม่เขินอายแม้แต่น้อย กอล์ฟบอกว่าเรื่องบางเรื่องมันจำเป็นต้องพูด แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ชอบออกสื่อนัก แต่เพราะเขามีข้อมูลเชิงลึก พวกสื่อจึงมาหาเขาเอง

ด้วยความสนใจทางการเมือง ทำให้ส่วนของงานละครหลายสิบเรื่องที่ผ่านมา ได้รับอิทธิพลจากการเมืองมากพอสมควร เมื่อบริบททางสังคมสั่งไม่ให้เขาพูด เขาก็สื่อสารและเล่าเรื่องผ่านร่างกาย ซึ่งเรียกว่าการแสดงแบบ Physical Theatre วิธีเล่าทางการละครคือไม่บอกว่าใครดีหรือใครเลว มีหน้าที่ให้คนดูเป็นผู้สังเกตพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงของตัวละครด้วยตนเอง “เราเป็นคนทำงานศิลปะ ศิลปะมันจะไม่พูดตรงๆ พอเป็นละครเวที มันมีความงามทางศิลปะหลายอย่าง อยู่ที่ว่าเราจะสร้างมันขึ้นมาอย่างประณีตมากแค่ไหน” แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลงานแต่ละชิ้นของกลุ่มลานยิ้มต้องทำแล้วได้เงินด้วย ถึงแม้ว่าการแสดงจะเต็มทุกรอบ ได้กำไรเล็กน้อยและไม่เคยขาดทุน แต่เขาก็ต้องการให้กลุ่มคนดูกว้างกว่านี้ เพราะมีประเด็นมากมายที่เขายังอยากจะเล่า

สุดท้ายคือส่วนหน้างานวิชาการ คือการผลิตองค์ความรู้ นำพาให้คนที่ชอบสิ่งเดียวกับมาพบปะกัน โดยกลุ่มลานยิ้มร่วมกับ Documentary Club นำภาพยนตร์มาฉายอย่างถูกลิขสิทธิ์ภายในห้องฉายภาพยนตร์ขนาดเล็ก 30 ที่นั่ง โดยคิดค่าเข้าชม 70 บาท นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหลังจากชมจบ กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนดูหนังนอกกระแสและหนังสารคดี โดยกอล์ฟถือคติว่าให้คนดูเป็นผู้เลือกหนัง นี่เป็นโรงหนังทางเลือก เลือกว่าจะดูหนังเรื่องอะไร ไม่ใช่ให้โรงหนังเป็นคนเลือกให้เรา

ทุกๆ กิจกรรมใน 4 ปีที่ผ่านมาของกลุ่มลานยิ้มเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและความทะเยอทะยาน ผู้ชายที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีได้ไม่ถึงปีอย่างกอล์ฟ สามารถนำพาละครของเขาไปสู่สายตาชาวต่างชาติได้ เพราะงานที่ตั้งใจยังไงก็มีคนเห็น เป้าหมายหลักของกอล์ฟคือการทำให้ละครและการดำเนินชีวิตไปด้วยกันได้ และในฐานะที่เขาเป็นหัวเรือหลักของกลุ่มลานยิ้ม การขยายฐานคนดูละครเวทีในเชียงใหม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนชีวิตในอนาคต กอล์ฟบอกว่าคงจะทำละครต่อไป “ทำอย่างอื่นไม่เป็น คงจะทำละครไปเรื่อยๆ เหนื่อยเมื่อไหร่ก็พัก พักแล้วก็ทำต่อ”